โดรนการเกษตร คือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดต้นทุนแรงงานให้กับเกษตรกร ราคาของโดรนแต่ละรุ่นแตกต่างกันไปตามขนาด ความสามารถ และคุณสมบัติของเครื่อง รวมถึงความเหมาะสมในการใช้งานกับแปลงนา ไร่ หรือสวนที่ต่างกัน
ในบทความนี้ ไทเกอร์โดรนได้รวบรวมข้อมูลราคาและคุณสมบัติของโดรนการเกษตรแต่ละขนาด เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตนเองได้มากที่สุด
โดรนการเกษตร ราคาโดยรวมอยู่ที่เท่าไหร่?

โดรนการเกษตร ราคาแต่ละรุ่นนั้นก็จะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นโดรนหว่านปุ๋ยหรือโดรนพ่นปุ๋ย โดรนฉีดยา และโดรนหว่านข้าว ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของอุปกรณ์ด้วย หากแบ่งตามขนาดแล้ว ราคาโดยประมาณจะมีดังนี้
โดรนขนาดเล็ก (8-10 ลิตร)
โดรนขนาดเล็ก โดรนหว่านปุ๋ย ราคาเริ่มต้นประมาณ 120,000 – 180,000 บาท เหมาะสำหรับเกษตรกรรายย่อย และขนาดพื้นที่ที่ไม่มาก
โดรนขนาดกลาง (ความจุ 20-30 ลิตร)
โดรนขนาดกลาง และโดรนหว่านข้าวราคาอยู่ในช่วง 200,000 – 400,000 บาท เหมาะกับเกษตรกรที่มีพื้นที่ 50 ไร่ขึ้นไป หรือต้องการออกรับจ้างบางส่วน
โดรนขนาดใหญ่ (มากกว่า 40 ลิตร)
โดรนขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับเกษตรกรแปลงใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการให้บริการรับจ้างเป็นหลัก ราคาจะเริ่มต้นที่ 290,000 บาทขึ้นไป
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาจะประกอบด้วย
ราคาของโดรนการเกษตรจะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้
1. ขนาดถังบรรจุและน้ำหนักบรรทุก
โดรนเกษตรแต่ละรุ่นมีขนาดถังบรรจุและน้ำหนักบรรทุก ไม่เท่ากัน เช่น 10 ลิตร, 20 ลิตร หรือ 30 ลิตร ขนาดถังที่ใหญ่ขึ้นสามารถพ่นพื้นที่ได้มากขึ้นในการบินแต่ละครั้ง ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ก็ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามขนาดและความสามารถในการแบกน้ำหนักของตัวเครื่อง
2. ประเภทของหัวฉีดและระบบพ่น
ระบบการพ่นมีหลายแบบ เช่น หัวฉีดแรงเหวี่ยง (Centrifugal Nozzle), หัวพ่นแบบแรงดัน โดยแต่ละระบบให้ผลลัพธ์การกระจายตัวของละอองที่ต่างกัน รุ่นที่มีความแม่นยำและควบคุมปริมาณการพ่นได้ดีมักมีต้นทุนสูงกว่า แต่ช่วยลดการสูญเสียสารเคมีและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
3. ระบบนำทางและเทคโนโลยีช่วยบิน
ระบบ GPS, RTK, radar หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และฟังก์ชันบินอัตโนมัติ ล้วนช่วยให้การใช้งานโดรนง่ายขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ซับซ้อนหรือไร่ขนาดใหญ่ โดรนที่มีเทคโนโลยีเหล่านี้มักมีราคาสูงกว่ารุ่นพื้นฐาน
4. วัสดุและโครงสร้างของตัวเครื่อง
วัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น พลาสติกเสริมไฟเบอร์ คาร์บอนไฟเบอร์ หรืออลูมิเนียมอัลลอย ส่งผลต่อความแข็งแรง น้ำหนัก และอายุการใช้งานของโดรน วัสดุคุณภาพสูงอาจมีต้นทุนมากขึ้น แต่ช่วยลดความเสียหายระหว่างใช้งานในระยะยาว
5. ระบบควบคุมและซอฟต์แวร์
โดรนบางรุ่นมาพร้อมรีโมตที่มีจอในตัว ซอฟต์แวร์สำหรับวางแผนเส้นทาง หรือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน ฟีเจอร์เหล่านี้เพิ่มความสะดวกในการใช้งานและติดตามผลการทำงาน
6. การรับประกันและบริการหลังการขาย
บริการหลังการขาย เช่น ระยะเวลาการรับประกัน ความเร็วในการซ่อมบำรุง หรือการจัดหาอะไหล่ ก็มีผลต่อการกำหนดราคาในภาพรวม รุ่นที่มีระบบสนับสนุนดีอาจมีราคาสูงกว่า แต่ให้ความมั่นใจในระยะยาว
เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติโดรนเกษตรแต่ละรุ่น
จากคำถามที่ว่าโดรนพ่นยาราคาเท่าไหร่นั้น คุณสมบัติและราคาของโดรนแต่ละรุ่นมีดังนี้
ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD1X-Max ฉีด พ่น

- จุดเด่นของโดรนเกษตรรุ่นนี้
ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD1X-Max มีความจุถังพ่น 10 ลิตร ขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถฉีดพ่นสารเคมีได้อย่างแม่นยำตามลักษณะพื้นที่ มีแรงลมเบาเหมาะกับพืชที่อ่อนไหวต่อแรงลม ช่วยลดการใช้สารเคมีที่เกินจำเป็น ประหยัดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- เหมาะสมกับการใช้งานแบบไหน
เหมาะกับพืชที่อ่อนไหวต่อแรงลม เช่น ข้าวออกรวง ข้าวโพด และพืชผัก หรือ เกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกขนาดเล็ก เช่น สวนผลไม้ ไร่นาขนาดย่อม หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
ราคา 149,000.- บาท
โดรนการเกษตรของไทเกอร์โดรน ครบครันทุกฟังก์ชันการใช้งาน
ไทเกอร์โดรน โดรนการเกษตร ราคาคุ้มคุณภาพ คุณสมบัติครบครัน ไม่ว่าจะใช้พ่นยา หว่านข้าว หรือหว่านปุ๋ย ทั้งยังมีบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ มีบริการช่วยฝึกอบรม ช่วยซ่อมบำรุง และให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน เกษตรกรสามารถเลือกรุ่นโดรนที่เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของตนเองได้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนในระยะยาว
