โดรนเกษตร ถือเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาปรับเปลี่ยนวงการเกษตรไทยอย่างก้าวกระโดด ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เกษตรกรยุคใหม่ ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ ไทเกอร์โดรน จะพาไปรู้จักกับโดรนเพื่อการเกษตรให้มากขึ้น ทั้งข้อดี ข้อจำกัดที่ควรรู้ และประโยชน์ของ โดรนพ่นยา ที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม
โดรนเกษตรคืออะไร มีกี่ประเภท?
โดรนเกษตร คือ เทคโนโลยีโดรนที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในวงการเกษตรกรรม โดยผสมผสานระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำงาน
โดรนเกษตรถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดระยะเวลาในการทำงานของเกษตรกร ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการพึ่งพาแรงงานคนในงานที่หนักหรือเสี่ยงอันตราย
โดรนเกษตรสามารถแบ่งประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้ 3 ประเภทหลัก ได้แก่
1. โดรนฉีดพ่น (Spraying Drone)
โดรนประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในงานเกษตรกรรม ใช้สำหรับฉีดพ่นสารเคมี เช่น ปุ๋ยน้ำ ยาฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช สามารถปล่อยละอองของเหลวได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ลดการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และช่วยลดการใช้แรงงานของเกษตรกรในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. โดรนหว่าน (Spreading Drone)
โดรนประเภทนี้ถูกใช้สำหรับการกระจายปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ หรือสารปรับปรุงดินลงบนแปลงเกษตรได้อย่างสม่ำเสมอ ครอบคลุมพื้นที่กว้างได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดภาระการใช้แรงงานในการขนส่งวัสดุที่มีน้ำหนักมาก ทำให้การทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น
3. โดรนสำรวจและตรวจสอบ (Survey and Inspection Drone)
โดรนประเภทนี้ถูกออกแบบเพื่อการสำรวจและตรวจสอบแปลงเกษตร โดยสามารถบินเหนือแปลงพืชเพื่อเก็บภาพถ่ายทางอากาศ และใช้กล้องมัลติสเปคตรัมในการประเมินสุขภาพพืช ติดตามการเจริญเติบโต และตรวจสอบการระบาดของโรคและแมลงในแต่ละพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เกษตรกรได้รับข้อมูลเชิงลึกในการจัดการแปลงเกษตร แม้ในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น แปลงอ้อยสูง หรือพื้นที่ลาดชัน
โดรนเกษตรมีประโยชน์อย่างไรกับงานเกษตร

ประโยชน์ของโดรนเพื่อการเกษตร มีดังนี้
- แม่นยำและรวดเร็ว โดรนสามารถฉีดพ่นสารเคมีหรือหว่านปุ๋ยได้ตรงจุด ควบคุมปริมาณได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการใช้สารเคมีและครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่าการทำงานด้วยแรงงานมนุษย์
- ลดการสัมผัสสารเคมีโดยตรง ด้วยการควบคุมโดรนจากระยะไกล ทำให้เกษตรกรไม่ต้องสัมผัสสารเคมีโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
- ลดการใช้แรงงาน เกษตรกรไม่จำเป็นต้องแบกถังหรือเดินฉีดพ่นเอง ช่วยลดความเหนื่อยล้าและลดต้นทุนในการจ้างแรงงาน
- เข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการทำงาน โดรนสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ลาดชันหรือดินหล่มแฉะ ซึ่งเครื่องจักรหรือแรงงานมนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้
- เหมาะสมกับภูมิประเทศในไทย โดรนมีความคล่องตัวสูง สามารถปรับการทำงานให้เหมาะสมกับแปลงเกษตรขนาดเล็กและพื้นที่ที่มีรูปร่างไม่แน่นอนในประเทศไทย
ข้อดีของโดรนเกษตร
โดรนเกษตรช่วยเปลี่ยนวิถีการทำงานในไร่จากเดิมที่ต้องพึ่งแรงงานคนจำนวนมาก มาเป็นการควบคุมผ่านรีโมตหรือแอปพลิเคชัน ใช้งานง่าย ไม่ต้องแบกเครื่องพ่นให้หนักหรือเดินตากแดดนาน ๆ ก็สามารถฉีดพ่นสารหรือหว่านปุ๋ยได้ครอบคลุมทั้งแปลง
ที่สำคัญคือสามารถกำหนด “ปริมาณการพ่นและการหว่าน” ได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการฟุ้งกระจายของสารเคมี และช่วยให้สารอาหารลงสู่ดินในจุดที่ต้องการจริง ๆ ไม่เปลืองน้ำยา ไม่เปลืองปุ๋ย ทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต และลดผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรเองด้วย
เมื่อเทียบกับการทำงานแบบเดิม โดรนช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า ครอบคลุมพื้นที่ได้มากในเวลาอันสั้น เหมาะทั้งกับเกษตรกรที่ดูแลไร่ของตัวเอง และผู้ที่ต้องการรับจ้างพ่นเพื่อหารายได้เสริม เพราะใช้เวลาไม่นาน คืนทุนไว และมีเวลาว่างไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น
โดรนเพื่อการเกษตร ราคาเท่าไหร่? แบ่งตามขนาดและการใช้งาน
โดรนเพื่อการเกษตรในปัจจุบันมีให้เลือกหลายขนาด และหลายระดับราคา ตั้งแต่รุ่นเล็กที่เหมาะสำหรับเกษตรกรหรือผู้สูงอายุที่ต้องใช้เอง ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่พร้อมลุยงานรับจ้างอย่างมืออาชีพ โดยราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ขนาดถังฉีดพ่น น้ำหนักบรรทุกสูงสุด เทคโนโลยีภายใน ความสามารถในการฉีดพ่นหรือหว่าน อุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง รวมถึงบริการหลังการขาย
รุ่นขนาดเล็ก (8–10 ลิตร)
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความคล่องตัวสูง, ฉีดพ่นต่อเนื่องในขนาดพื้นที่ไม่มาก
ราคาโดยประมาณ
- เริ่มต้นที่ 120,000 – 180,000 บาท
- ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ สำหรับใช้ฉีดพ่นสารเคมี
- เคลื่อนย้ายง่าย ทำงานคนเดียวได้ เหมาะกับผู้สูงอายุ
- แรงลมเบา ไม่ทำร้ายผลผลิต
เหมาะกับ ฉีดพ่นไม่เกิน 80 ไร่/วัน
แนะนำโดรนเกษตรขนาดเล็ก ประสิทธิภาพเกินคาด

ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD1X-Max
ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD1X-Max โดรนเกษตรอัจฉริยะที่มาพร้อมระบบฉีดพ่นอย่างแม่นยำ บินเสถียร มีเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ป้องกันการบินชน ใช้งานง่าย คืนทุนไว
ด้วยขนาดที่กะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวกโดยไม่ต้องใช้รถกระบะ เหมาะสำหรับแปลงเกษตรขนาดเล็ก หรือแปลงย่อยที่อยู่ห่างกัน แม้แต่ผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานคนเดียวได้อย่างสบาย
ความจุ : 10 ลิตร
ราคา : 149,000.- บาท
รุ่นขนาดกลาง (20–30 ลิตร)
เหมาะสำหรับ เกษตรกรที่มีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ขึ้นไป หรือกลุ่มที่ใช้เองและรับจ้างร่วมด้วย
ราคาโดยประมาณ
- อยู่ในช่วง 200,000 – 400,000 บาท
- ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ รองรับการฉีดพ่นและหว่าน
- เป็นรุ่นขนาดกลางที่ลงตัวทั้งขนาดถังพ่นและความคล่องตัว
เหมาะกับ ฉีดพ่นประมาณ 100–200 ไร่/วัน
แนะนำโดรนเกษตรขนาดกลาง มาครบทุกฟังก์ชันการเกษตร

ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD25
ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD25คือโดรนเกษตรขนาดกลางที่ออกแบบมาให้รองรับทั้งการฉีดพ่นและการหว่านได้ในเครื่องเดียว ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ไม่ยุ่งยาก ใช้งานสะดวกในทุกสถานการณ์
ระบบหัวฉีดแบบแรงเหวี่ยงสามารถปรับขนาดละอองให้สู้ลม เหมาะกับสารเคมีที่ใช้ ระบบหว่านกระจายได้สม่ำเสมอทั่วพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นแปลงขนาดใหญ่หรือแปลงย่อยก็ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ความจุ : 25 ลิตร
ราคา : 325,000.- บาท
รุ่นขนาดใหญ่ (40 ลิตรขึ้นไป)
เหมาะสำหรับ งานรับจ้างเต็มระบบ หรือเกษตรกรรายใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
ราคาโดยประมาณ
- เริ่มตั้งแต่ 290,000 บาทขึ้นไป
- มาพร้อมฟีเจอร์ครบ เช่น บินแบบ 3D Mapping, ตรวจสอบพื้นที่, ระบบเก็บข้อมูล, แสดงผลผ่านแอป
- ต้องใช้รถกระบะในการขนย้าย และทีมงานช่วยดูแล
เหมาะกับ งานพ่นระดับ 300 ไร่/วันขึ้นไป รับจ้างได้เต็มเวลา
| ขนาดถังพ่น | ราคาโดยประมาณ | เหมาะสำหรับ | พื้นที่แนะนำต่อวัน |
| 8–10 ลิตร | 120,000–180,000 | ใช้เอง, คล่องตัว | ≤ 80 ไร่ |
| 20–25 ลิตร | 200,000–400,000 | ใช้เอง + รับจ้างบางส่วน | 100–200 ไร่ |
| 30–40 ลิตร | 290,000+ | รับจ้างเต็มระบบ | 300 ไร่ขึ้นไป |
ทำไมต้องใช้โดรนเพื่อการเกษตรของ ไทเกอร์โดรน
ไทเกอร์โดรน ไม่ใช่แค่เครื่องโดรน แต่คือ “ผู้ช่วยประจำไร่” ที่ออกแบบมาเพื่อชีวิตจริงของเกษตรกรไทย
เบื้องหลังโดรนทุกลำ คือทีมที่เข้าใจปัญหาของเกษตรกรที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด
เรามีทีมพัฒนาที่ทำงานต่อเนื่อง ทำให้ไทเกอร์โดรนทำงานได้แม่นยำ ใช้งานง่าย ซ่อมง่าย และสามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ ทั้งระบบฉีดพ่นและระบบหว่าน ถูกออกแบบมาให้ควบคุมปริมาณได้แม่นยำ ลดต้นทุน ประหยัดแรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง
จุดแข็งของเราคือ “การดูแลหลังการขายที่สัมผัสได้จริง”
ไม่ใช่แค่ซื้อแล้วจบ แต่เรามีทีมสอนใช้งานให้พร้อม มีช่างประจำในพื้นที่ต่าง ๆ
เพราะเรารู้ว่าเวลาฉีดพ่นเสียไม่ได้ — ทุกนาทีคือรายได้ของเกษตรกร โดรนของเราจึงพร้อมลุย พร้อมซ่อม พร้อมอยู่ข้างไร่คุณเสมอ
