เกษตรแม่นยำ หรือ Precision Farming เป็นแนวคิดเกษตรยุคดิจิทัลที่กำลังปฏิวัติวงการเกษตรไทย ช่วยให้เกษตรกรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับการเกษตรแบบดั้งเดิมที่พึ่งพาสภาพอากาศและประสบการณ์ ให้กลายเป็นการเกษตรที่แม่นยำ วันนี้ ไทเกอร์โดรนจะพาไปทำความเข้าใจเรื่องเกษตรแม่นยำว่าคืออะไร มีข้อดีข้อเสียอะไรที่น่าสนใจบ้าง
เกษตรแม่นยำคืออะไร?
เกษตรแม่นยำ, Precision Farming หรือ Precision Agriculture คือ การทำเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการตัดสินใจและจัดการทรัพยากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และรักษาสิ่งแวดล้อม
Precision Farming ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง GPS เซนเซอร์ โดรนเกษตร และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อจัดการพื้นที่เกษตรอย่างแม่นยำ ทำให้เกษตรกรเข้าใจสภาพแวดล้อม ความต้องการของพืช และสภาพดินได้อย่างละเอียด นำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใช้น้ำ ปุ๋ย และสารเคมีในปริมาณที่เหมาะสม ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้
เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ มีอะไรบ้าง
เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ มีดังนี้
1. โดรนเกษตรกับการทำเกษตรแม่นยำ

โดรนเกษตรเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการทำเกษตรแม่นยำ เนื่องจากมีความคล่องตัวสูง สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ง่าย และมีความแม่นยำในการทำงาน โดรนเกษตรมีการนำมาประยุกต์ใช้ในหลายด้าน ได้แก่
1. การฉีดพ่นสารเคมี
โดรนพ่นยา เช่น ไทเกอร์โดรน รุ่น TGD1X-Max สามารถพ่นสารเคมีหรือปุ๋ยน้ำได้อย่างแม่นยำและทั่วถึง ลดการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น
2. การสำรวจพื้นที่
โดรนติดกล้องสามารถบินสำรวจพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเก็บภาพถ่ายทางอากาศ ทำให้เกษตรกรมองเห็นภาพรวมของพื้นที่และวางแผนการจัดการได้ดีขึ้น
3. การตรวจสอบสุขภาพพืช
โดรนติดกล้องความร้อนหรือกล้องมัลติสเปกตรัม สามารถตรวจจับความผิดปกติของพืช เช่น โรคพืช แมลงศัตรูพืช หรือการขาดน้ำ ก่อนที่จะสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า
4.การหว่านเมล็ด
โดรนพิเศษสามารถใช้ในการหว่านเมล็ดพืชได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
โดรนเกษตรช่วยลดเวลาและแรงงานในการทำงาน เพิ่มความปลอดภัยโดยลดการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และช่วยให้การดูแลพืชมีความแม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสูงขึ้น
2. เซนเซอร์และระบบตรวจวัดในงานเกษตรแม่นยำ

เซนเซอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและสุขภาพของพืชในเกษตรแม่นยำ เซนเซอร์ช่วยให้เกษตรกรทราบถึงสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ทำให้สามารถตัดสินใจและจัดการได้อย่างเหมาะสม เซนเซอร์ที่นิยมใช้ในเกษตรแม่นยำ ได้แก่
1. เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน
ตรวจวัดระดับความชื้นในดินเพื่อช่วยในการตัดสินใจเรื่องการให้น้ำ ทำให้ไม่ใช้น้ำมากหรือน้อยเกินไป
2. เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ
ตรวจวัดอุณหภูมิในบริเวณแปลงเพาะปลูก ช่วยในการเฝ้าระวังสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อพืช
3. เซนเซอร์วัดค่าความเข้มแสง
ตรวจวัดปริมาณแสงที่พืชได้รับ ช่วยในการวางแผนการปลูกพืชและการจัดการพื้นที่
4. เซนเซอร์วัดระดับคลอโรฟิลล์
ตรวจวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ในใบพืช ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์และสุขภาพของพืช
5. ชุดตรวจวัดดินแบบพกพา
ใช้ตรวจวัดคุณภาพของดิน เช่น pH ความชื้น และปริมาณธาตุอาหารในดิน ทำให้ทราบว่าควรปรับปรุงดินอย่างไรให้มีคุณภาพเหมาะสมกับพืชที่ต้องการเพาะปลูก
ข้อมูลจากเซนเซอร์เหล่านี้จะถูกส่งไปยังระบบประมวลผล ซึ่งจะวิเคราะห์และแสดงผลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น
3. ระบบ GPS และการควบคุมทิศทางอัตโนมัติ

ระบบ GPS (Global Positioning System) และการควบคุมทิศทางอัตโนมัติ (Auto Steering) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำงานของเครื่องจักรกลการเกษตรในเกษตรแม่นยำ ดังนี้
1. ระบบ GPS
ช่วยในการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ ทำให้สามารถวางแผนและติดตามการทำงานในพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างละเอียด เช่น การทำแผนที่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน แผนที่ผลผลิต หรือการแบ่งโซนพื้นที่เพาะปลูก
2. ระบบควบคุมทิศทางการทำงานเครื่องจักรอัตโนมัติ (Auto Steering)
ระบบที่ช่วยให้เครื่องจักรกลการเกษตรสามารถขับเคลื่อนได้เองโดยอัตโนมัติตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยใช้เทคโนโลยี GPS และเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางของเครื่องจักรอย่างแม่นยำ
3. การแมปพื้นที่
ใช้ระบบ GPS ร่วมกับโดรนหรือแพลตฟอร์มการทำแผนที่เพื่อสร้างแผนที่ละเอียดของพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ทราบถึงความแตกต่างของสภาพดินและสภาพแวดล้อมในแต่ละจุด
4. การทำเกษตรแบบแบ่งโซน
ใช้ข้อมูล GPS ในการแบ่งพื้นที่เพาะปลูกออกเป็นโซนตามลักษณะของดินและสภาพแวดล้อม ทำให้สามารถจัดการแต่ละโซนได้อย่างเหมาะสม
โดรนเกษตรรุ่นใหม่ ๆ เช่น TIGERDRONE รุ่น TGD2 (25 ลิตร) ก็มาพร้อมกับระบบ GPS และการควบคุมการบินอัตโนมัติที่ทันสมัย ทำให้การพ่นสารเคมีหรือปุ๋ยมีความแม่นยำสูง
4. เทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยแบบแม่นยำ

เทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยแบบแม่นยำเป็นส่วนสำคัญของเกษตรแม่นยำ ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วย
1. เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัด
คือปุ๋ยที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับพื้นที่นั้นๆ โดยอ้างอิงจากผลการวิเคราะห์ดิน ทำให้ดินได้รับธาตุอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชและสภาพดิน
2. ระบบควบคุมการจ่ายปุ๋ยแบบอัตราแปรผัน (Variable Rate Technology (VRT))
เป็นระบบที่สามารถปรับเปลี่ยนอัตราการจ่ายปุ๋ยโดยอัตโนมัติตามความต้องการของพืชในแต่ละพื้นที่ โดยอ้างอิงจากแผนที่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
3. การวิเคราะห์ดินแบบละเอียด
ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ดินที่ทันสมัยเพื่อตรวจสอบปริมาณธาตุอาหารในดินอย่างละเอียด ทำให้ทราบถึงความต้องการปุ๋ยที่แท้จริงของพืช
4. แผนที่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ดินและระบบ GPS เพื่อสร้างแผนที่แสดงระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินในแต่ละพื้นที่ ช่วยในการวางแผนการให้ปุ๋ย
ข้อดีและข้อเสียของการทำเกษตรแม่นยำ

เกษตรกรควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียของเกษตรแม่นยำก่อนลงทุน เพื่อให้เข้าใจประโยชน์และความท้าทาย ซึ่งจะช่วยในการวางแผนและเตรียมพร้อมใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของการทำเกษตรแม่นยำ
- ลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ทรัพยากร (น้ำ ปุ๋ย สารเคมี) ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยประหยัดต้นทุนระยะยาว
- เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ โดยจัดการพื้นที่อย่างแม่นยำ ทำให้พืชเติบโตดี ได้ผลผลิตมากขึ้น คุณภาพดีขึ้น เพิ่มรายได้
- รักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยลดการใช้สารเคมีเกินจำเป็น รักษาคุณภาพดินและน้ำ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ข้อเสียของการทำเกษตรแม่นยำ
- ต้นทุนเริ่มต้นสูง เพราะต้องลงทุนซื้อโดรน เซนเซอร์ และซอฟต์แวร์ที่มีราคาแพง เป็นอุปสรรคสำหรับเกษตรกรรายย่อย
- ต้องมีความรู้และทักษะเฉพาะทาง ในการเรียนรู้วิธีใช้เทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล อาจต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่ม
- ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งต้องใช้อินเทอร์เน็ตและไฟฟ้าที่เสถียร ซึ่งอาจขาดแคลนในบางพื้นที่ของไทย
ไทเกอร์โดรนพร้อมยกระดับเกษตรแม่นยำไทยสู่ความสำเร็จ

เกษตรแม่นยำช่วยปฏิวัติวงการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืน โดยมีทั้งเทคโนโลยีโดรนเกษตร เซนเซอร์ ระบบ GPS และการจัดการปุ๋ยแบบแม่นยำ แม้มีข้อจำกัดด้านต้นทุนเริ่มต้นและความรู้บ้าง แต่ประโยชน์ระยะยาวก็คุ้มค่าต่อการลงทุน
ด้วยเหตุนี้ไทเกอร์โดรนจึงพร้อมสนับสนุนเกษตรกรรมไทยด้วยโดรนคุณภาพสูงที่ออกแบบเพื่อเกษตรกรไทยโดยเฉพาะ พร้อมมีบริการฝึกอบรมเรื่องการใช้โดรนเป็นการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ เพื่อยกระดับการเกษตรไทยสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
