หนึ่งในคำถามสำคัญที่เกษตรกรมือใหม่และมืออาชีพต่างให้ความสนใจคือ ปลูกข้าวกี่เดือนเก็บเกี่ยว เพราะการวางแผนระยะเวลาเพาะปลูกที่แม่นยำคือปัจจัยแรกที่ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิต การรู้ว่าควรเริ่มปลูกเมื่อไหร่และเก็บเกี่ยวเดือนไหน จะช่วยให้ชาวนาสามารถบริหารจัดการแปลงนาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้ได้มากขึ้นในแต่ละฤดูกาลเพาะปลูก
ปลูกข้าวใช้เวลากี่เดือน
โดยทั่วไปแล้ว การปลูกข้าวจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 110-120 วัน หรือราว 4 เดือน ตั้งแต่เริ่มตกกล้าไปจนถึงช่วงที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลานั้นอาจสั้นหรือยาวกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักคือสายพันธุ์ข้าวที่เลือกปลูกว่าเป็นพันธุ์อะไร รวมถึงสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูก เช่น ปริมาณแสงแดดและอุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและช่วงเวลาที่ข้าวพร้อมให้เก็บเกี่ยวทั้งหมด
ข้าวแต่ละประเภทปลูกยังไง เก็บเกี่ยวตอนไหน
การจะรู้ว่าควรเก็บเกี่ยวข้าวตอนไหนนั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของพันธุ์ข้าวที่ปลูกเสียก่อน เพราะข้าวแต่ละประเภทมีเงื่อนไขในการเจริญเติบโตและช่วงเวลาออกรวงที่แตกต่างกันไป
ปลูกข้าวไวแสง
ข้าวไวแสง หรือข้าวที่ตอบสนองต่อช่วงแสง เป็นพันธุ์ข้าวที่มักปลูกในฤดูนาปี (ข้าวที่ปลูกช่วงฤดูฝน และเก็บเกี่ยวปลายฤดูฝน) การออกรวงของข้าวประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความยาวของช่วงกลางวันและกลางคืน โดยจะเริ่มออกดอกเมื่อช่วงกลางวันสั้นลง เช่น ข้าวหอมมะลิ 105 ดังนั้น ต่อให้ปลูกในช่วงเวลาที่ต่างกันของฤดูนาปี ข้าวกลุ่มนี้ก็จะออกรวงและสุกแก่พร้อมให้เก็บเกี่ยวในระยะเวลาใกล้เคียงกันเสมอ เพราะถูกกำหนดโดยปัจจัยของแสงเป็นหลัก
ปลูกข้าวไม่ไวแสง
ข้าวไม่ไวแสง เป็นพันธุ์ข้าวที่การออกรวงจะขึ้นอยู่กับอายุการเจริญเติบโตของต้นข้าวเป็นสำคัญ โดยไม่เกี่ยวข้องกับความยาวของช่วงแสงในแต่ละวัน ทำให้สามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปีหากมีระบบชลประทานที่สมบูรณ์เพียงพอ ส่วนใหญ่นิยมปลูกในฤดูนาปรัง (ข้าวที่ปลูกนอกฤดูฝน) โดยเกษตรกรสามารถนับวันเพื่อกำหนดช่วงเวลาเก็บเกี่ยวที่แน่นอนได้เลยหลังจากที่เริ่มปลูก เช่น พันธุ์ กข ต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
เก็บข้าวเดือนไหนเหมาะสมที่สุด

ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวที่เหมาะสมที่สุด จะแบ่งตามประเภทของการทำนาเป็นหลัก ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับพันธุ์ข้าวและฤดูกาลเพาะปลูกที่แตกต่างกัน ดังนี้
ข้าวนาปี เก็บเกี่ยวเดือนไหน
การเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เนื่องจากข้าวนาปีส่วนใหญ่เป็นข้าวพันธุ์ไวแสงที่เริ่มออกรวงเมื่อกลางวันสั้นลงหลังหมดฤดูฝน การเก็บเกี่ยวในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่ข้าวเจริญเติบโตเต็มที่ เมล็ดมีความสมบูรณ์ แข็งแรง และให้คุณภาพผลผลิตที่ดีที่สุด อีกทั้งสภาพอากาศที่แห้งและมีแดดในช่วงต้นฤดูหนาวยังเอื้อต่อการทำงานในแปลงนาอีกด้วย
ข้าวนาปรัง เก็บเกี่ยวเดือนไหน
สำหรับข้าวนาปรังซึ่งใช้พันธุ์ข้าวไม่ไวแสง เกษตรกรสามารถกำหนดช่วงเวลาเก็บเกี่ยวได้ค่อนข้างแม่นยำ โดยจะนับจากวันเริ่มต้นเพาะปลูกไปประมาณ 110-120 วัน ตัวอย่างเช่น หากเริ่มเพาะปลูกในเดือนมกราคม ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม การวางแผนที่ชัดเจนนี้ทำให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวนาปรังได้หลายรอบต่อปี หากมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี
ปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บเกี่ยวข้าว
นอกเหนือจากชนิดของข้าวและฤดูกาลแล้ว ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิตที่จะได้รับด้วย ดังนี้
สายพันธุ์ข้าวที่ปลูก
พันธุกรรมของข้าวแต่ละสายพันธุ์เป็นตัวกำหนดอายุการเก็บเกี่ยวพื้นฐาน บางพันธุ์เป็นข้าวอายุสั้นหรือพันธุ์เบาที่ใช้เวลาปลูกไม่นาน ในขณะที่บางพันธุ์เป็นข้าวอายุยาวหรือพันธุ์หนักที่ต้องการระยะเวลาเจริญเติบโตนานกว่า การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเป้าหมายของเกษตรกรจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่งในการวางแผนการปลูกให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
สภาพดินฟ้าอากาศ
ปัจจัยทางธรรมชาติอย่างแสงแดด ปริมาณน้ำฝน และความสมบูรณ์ของดิน ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ควบคุมไม่ได้ แต่ส่งผลกระทบอย่างมาก แสงแดดที่เพียงพอช่วยให้ข้าวสังเคราะห์แสงได้ดี น้ำที่เหมาะสมช่วยให้ต้นข้าวเจริญเติบโตแข็งแรง ในขณะที่ดินที่อุดมสมบูรณ์จะให้แร่ธาตุที่จำเป็น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจึงอาจทำให้ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวคลาดเคลื่อนไปจากเดิมได้
อุณหภูมิสะสม
อุณหภูมิสะสมเปรียบเสมือนนาฬิกาชีวภาพของต้นข้าว พืชต้องการอุณหภูมิในระดับที่เหมาะสมสะสมไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ครบกระบวนการเจริญเติบโตในแต่ละระยะ ตั้งแต่การแตกกอไปจนถึงการออกรวง หากปีไหนมีอากาศร้อนหรือเย็นกว่าปกติ อุณหภูมิสะสมอาจครบเร็วหรือช้ากว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ช่วงเวลาที่ข้าวพร้อมเก็บเกี่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยคาดการณ์ไว้ได้เช่นกัน
ศัตรูพืช และวัชพืชต่าง ๆ
ศัตรูพืชและวัชพืชเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยแย่งชิงธาตุอาหารและทำลายต้นข้าวโดยตรง หากมีการระบาดรุนแรงอาจทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง คุณภาพเมล็ดข้าวต่ำกว่ามาตรฐาน และอาจทำให้การเก็บเกี่ยวล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่วางแผนไว้ การป้องกันและจัดการศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นขั้นตอนที่เกษตรกรมองข้ามไม่ได้
สังเกตอย่างไรว่าข้าวแก่พร้อมเกี่ยว

เมื่อทราบช่วงเดือนที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสังเกตสัญญาณในแปลงนาจริง เพื่อหาวันที่ดีที่สุดในการลงมือเก็บเกี่ยว ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของเมล็ดข้าวโดยตรง ดังนี้
- สีของเมล็ดข้าว
สังเกตสีของเมล็ดข้าวในรวง หากเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองฟางหรือสีทองอร่ามประมาณ 80-90% ของทั้งรวง แสดงว่าข้าวสุกแก่ในระยะที่เรียกว่า “ระยะพลับพลึง” ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บเกี่ยว
- ลักษณะรวงข้าว
รวงข้าวที่สมบูรณ์และสุกเต็มที่จะมีน้ำหนัก ทำให้คอรวงเริ่มโค้งงอหรือที่เรียกว่า “รวงข้าวก้มหัว” เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเมล็ดข้าวได้สะสมแป้งไว้เต็มที่แล้ว พร้อมที่จะให้ผลผลิตคุณภาพดี
- ความชื้นในเมล็ด
สำหรับเกษตรกรมืออาชีพ การวัดความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด โดยความชื้นที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวควรอยู่ที่ประมาณ 20-25% หากเกี่ยวข้าวที่ความชื้นนี้ จะช่วยลดการแตกหักของเมล็ดระหว่างการนวดและการสีได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวังเพื่อคุณภาพผลผลิตสูงสุด
การเก็บเกี่ยวในวันที่เหมาะสมต้องมาพร้อมกับวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อรักษาคุณภาพของข้าวให้ได้มากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวในช่วงที่ฝนตกหรือมีน้ำค้างตอนเช้า เพราะความชื้นที่สูงเกินไปจะส่งผลเสียต่อคุณภาพเมล็ด และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเครื่องจักร
- หลังการเก็บเกี่ยว ควรรีบนำข้าวไปตากหรือเข้าสู่กระบวนการลดความชื้นทันที เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา และความเสียหายที่จะทำให้ราคาตก
ไทเกอร์โดรน เทคโนโลยีคู่ใจชาวนา เพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยง
การทำความเข้าใจปัจจัยทั้งหมดตั้งแต่การเลือกพันธุ์ ไปจนถึงการสังเกตสัญญาณเก็บเกี่ยวเป็นเรื่องสำคัญ แต่การบริหารจัดการปัจจัยเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพคือหัวใจของการทำนายุคใหม่ ไทเกอร์โดรนจึงพร้อมนำเสนอโดรนการเกษตร ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างตรงจุด
เพราะโดรนเพื่อการเกษตรจากไทเกอร์โดรนมีระบบฉีดพ่น ช่วยจัดการปัญหาวัชพืชและศัตรูพืชได้โดยที่เกษตรกรไม่ต้องสัมผัสกับตัวยาอันตรายโดยตรง ยกระดับความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมาก และเทคโนโลยีจากโดรนยังสามารถใช้บินสำรวจเพื่อประเมินความสม่ำเสมอของสีรวงข้าวในภาพรวมได้ด้วย ทำให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจเลือกวันเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
สรุปบทความ
หัวใจของการปลูกข้าวกี่เดือนเก็บเกี่ยวให้ได้ผลดีที่สุดนั้น คือการวางแผนที่แม่นยำตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมระหว่าง “ข้าวนาปี” ที่เจริญเติบโตตามฤดูกาล กับ “ข้าวนาปรัง” ที่นับอายุการเก็บเกี่ยวได้ ไปจนถึงการรับมือกับปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ยากอย่างสภาพอากาศ และการป้องกันความเสียหายจากศัตรูพืช ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้วัดคุณภาพและปริมาณของผลผลิตโดยตรง
เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ เกษตรกรยุคใหม่จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญ เพื่อช่วยตรวจสอบและทำให้มองเห็นภาพรวมของแปลงนาได้ง่ายขึ้น ทำให้การทำเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับการทำนาสู่มาตรฐานใหม่เพื่อผลผลิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
