โดรนพ่นยาเป็นเครื่องมือได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พี่ๆ เกษตรกรหลายคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก จากที่เคยต้องตากแดดแบกถังฉีดพ่น เปลี่ยนมาคุมโดรนด้วยรีโมตจากในร่ม ลดเวลาการทำงานในไร่ ลดต้นทุนจ้างแรงงาน ทำให้เราปลอดภัยมากขึ้น จากการที่ไม่ต้องสัมผัสสารเคมีโดยตรง
โดรนพ่นยายังทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ ฉีดพ่นได้แม่นยำสม่ำเสมอกว่าคน ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชผลได้รับสารเคมีอย่างทั่วถึงเท่ากันทั้งแปลง
อย่างไรก็ดี โดรนพ่นยายังมีราคาค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับหลักแสนบาทขึ้นไป จึงควรเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยพิจารณาให้มั่นใจว่าเราจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนนี้ครับ
การเลือกโดรนพ่นยาควรคำนึงถึงอะไรบ้าง?
ในบทความนี้เราจะพามาดูกันว่า เราควรเลือกโดรนพ่นยาอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับการใช้งานของเราครับ
ขนาดพื้นที่ฉีดพ่นต่อเนื่อง
หลายคนเข้าใจว่าแปลงเล็กต้องใช้โดรนเล็ก แปลงใหญ่ต้องใช้โดรนใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเราควรเลือกโดรนพ่นยาจาก ‘ขนาดพื้นที่ที่ต้องการฉีดพ่นต่อเนื่องในหนึ่งวัน’ มากกว่าครับ
ตัวอย่างเช่น หากเรามีขนาดพื้นที่แปลงรวมกันได้ 100 ไร่ สามารถแบ่งฉีดพ่นวันละ 50 ไร่ได้ หรือหากแปลงแบ่งออกเป็นแปลงย่อยหลายแปลง อาจทำให้ต้องย้ายแปลงบ่อย ในที่นี้โดรนขนาดเล็กก็จะเหมาะสมกว่าครับ
ตัวอย่างเช่น หากเรามีพื้นที่รวม 100 ไร่ สามารถแบ่งฉีดพ่นวันละ 50 ไร่ หรือกรณีแปลงแบ่งออกเป็นหลายแปลงย่อย ทำให้ต้องย้ายแปลงบ่อย โดรนขนาดเล็กก็อาจเคลื่อนย้ายง่าย คล่องตัวมากกว่าครับ
พี่ๆ ลองเปรียบเทียบขนาดโดรน กับขนาดพื้นที่ฉีดพ่นของตัวเองเบื้องต้นได้ดังนี้ครับ
- โดรนขนาดเล็ก (10 ลิตร) : ฉีดพ่นได้สูงสุด ~80 ไร่/วัน
- โดรนขนาดกลาง (20–30 ลิตร) : ฉีดพ่นได้สูงสุด ~200 ไร่/วัน
- โดรนขนาดใหญ่ (40–50 ลิตร) : ฉีดพ่นได้สูงสุด ~400 ไร่/วัน
ความสะดวกในการใช้งาน
เลือกโดรนที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีระบบบินอัตโนมัติ สามารถคำนวณปริมาณสารเคมีตามขนาดพื้นที่ และอัตราฉีดพ่นที่ต้องการ ช่วยให้ใช้น้ำยาได้อย่างแม่นยำพอดี ไม่สิ้นเปลือง นอกจากนี้ ควรเลือกรุ่นที่ตั้งค่าให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานได้ เช่น การบินไต่ระดับสำหรับพื้นที่เนิน
ความปลอดภัย
โดรนพ่นยาเป็นเครื่องจักรที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงควรเลือกรุ่นที่มีระบบ ป้องกันเหตุ (Fail Safe) เช่น
- ระบบป้องกันใบพัดไม่ให้หมุนเมื่อมีคนเข้าใกล้ก่อนขึ้นบิน
- ลงจอดอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
- หยุดรออยู่กับที่เมื่อสัญญาณควบคุมขาดหาย
นอกจากนี้ ยังควรมีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง เพื่อให้โดรนหยุดอัตโนมัติเมื่อพบวัตถุขวางทางบิน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการชนและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
การดูแลรักษา ค่าซ่อม ค่าอะไหล่
เลือกรุ่นที่มีบริการหลังการขายดี อะไหล่หาง่าย และราคาสมเหตุสมผล ที่สำคัญควรมีเครื่องสำรองให้ใช้กรณีเครื่องเสีย เพราะอุบัติเหตุโดรนตกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ อีกทั้งตัวโดรนยังต้องสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ทำให้อะไหล่บางชิ้นเสื่อมสภาพได้ตามการใช้งาน
ปลูกพืชอะไร เลือกโดรนพ่นยาแบบไหน?
พืชอ่อนไหวต่อแรงลง เช่น ผัก ดอกไม้ ข้าวโพด
พืชผัก ดอกไม้ ข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชที่อ่อนไหวต่อแรงลม ควรใช้โดรนขนาดเล็ก ไม่เกิน 10 ลิตร เนื่องจากแรงลมจากใต้ใบพัดเบา ไม่ทำให้ผลผลิตหักเสียหาย
นาข้าว
เลือกรุ่นที่มีทั้งระบบฉีดพ่นและหว่านในตัว ได้ครบทั้งงานพ่นยาและงานหว่านปุ๋ย ลดการเหยียบย่ำต้นข้าว ควรมีระบบโชยรวงยกตัวขณะบินกลับตัว เพื่อป้องกันไม่ให้แรงลมจากใต้ใบพัดกดให้ข้าวล้ม เมื่อข้าวเริ่มออกรวง
พืชไร่
พืชไร่ที่มีลำต้นสูง เช่น มันสำปะหลัง อ้อย หรือเผือก เหมาะมากกับการใช้โดรนพ่นยา โดยสามารถใช้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งฤดูกาล ต่างจากรถแทรกเตอร์ที่อาจเข้าถึงพื้นที่ลำบากเมื่อลำต้นสูง โดรนยังช่วยให้สามารถให้ฮอร์โมนพืชทางใย ช่วยลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยยูเรีย
เลือกโดรนพ่นยาที่มีระบบบินไต่ระดับสำหรับพืชไร่ เพื่อให้โดรนรักษาความสูงจากยอดพืชได้สม่ำเสมอ ไม่ตกหลุม เมื่อเจอต้นพืชล้มในแปลง
สวนผลไม้
หากเป็นสวนผลไม้ที่เพิ่งเริ่มปลูก (ต้นสูงไม่เกิน 4 เมตร และยังไม่ให้ผลผลิต) และยังไม่อยากลงทุนมากในช่วงแรก สามารถใช้โดรนขนาดเล็ก 10 ลิตร ที่ เหมาะสำหรับงานพ่นเบื้องต้น
แต่หากสวนสูงเกินกว่า 4 เมตร ควรเลือกใช้โดรนที่มีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวาง และควบคุมความสูงแม่นยำ ควรเลือกใช้หัวสเปรย์แบบเรียงเหวี่ยง และปั๊มที่มีอัตราการไหลได้สูงกว่า 16 ลิตร/นาที เพื่อให้ละอองเข้าถึงพุ่มได้ลึกและทั่วถึงมากขึ้น
เลือกโดรนพ่นยา ไทเกอร์โดรน ที่ใช่สำหรับไร่เกษตรของคุณ

การเลือกโดรนพ่นยาควรพิจารณาให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานจริงในแต่ละพื้นที่ โดยคำนึงถึงขนาดพื้นที่ฉีดพ่นต่อวัน ประเภทของพืชที่ปลูก ความสะดวกในการใช้งานและรวมถึงการให้บริการหลังการขาย และการหาอะไหล่ในระยะยาว ทั้งหมดนี้จะช่วยให้พี่ ๆ เกษตรกรสามารถใช้งานโดรนได้เต็มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และคืนทุนได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
ไทเกอร์โดรนจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย การรับประกันคุณภาพ และบริการหลังการขายที่น่าเชื่อถือ นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว และเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน ทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่ากับการลงทุน
